พลังงานไทย..อย่าให้ใครดูถูก Episode 0

" เนื่องจากปั๊มน้ำมัน Mobil ที่เคยอยู่หน้าบ้าน ได้ปิดตัวลงไปแล้ว จึงขออุทิศเรื่องราวใน Blog นี้ ได้เป็นสิ่งเตือนใจว่า บริษัทอื่นที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย ก็อยู่ต่อไปไม่ไหวเหมือนกันในสภาพการถูกควบคุมและแทรกแซงราคาน้ำมันเช่นนี้"

อารัมภบท

ธุรกิจ พลังงาน เป็นธุรกิจที่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เป็นเสาหลักของประเทศ และเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนสัมผัสได้และใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีหลายกระแสออกมาวิพากย์วิจารณ์กันต่างๆนานากันไป แต่หลักๆแล้ว ก็จะเป็นข้อมูลที่มาจากทาง ส.ว. ของเรานี่เอง เมื่อ ส.ว. มีปากมีเสียง สามารถใช้เสียงของตน พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ สร้างภาพในหัวคนอย่างไรก็ได้ โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่นำมาแต่อย่างใด ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ไม่มีปากมีเสียงอะไร แต่ก็พอที่จะมีความรู้ที่เรียนมาทางด้านพลังงาน และสามารถใช้หัวสมองของตัวเอง วิเคราะห์ข้อมูลเป็นเช่นกัน และมีความเข้าใจในธุรกิจพลังงานพอสมควร จึงอยากจะตรวจสอบความเห็นจากท่าน ส.ว. ที่ได้พยายามปลุกปั่นเรื่องเหล่านี้มานาน ว่ามีความจริงเท็จประการใด กับสิ่งที่พยายามสื่อให้กับสังคมได้รับทราบ…

อย่างแรกเลยที่ผมสังเกตเห็น คือการมองภาพพลังงานของท่าน ส.ว. นั้น ขาดความครบถ้วน เรื่องเหล่านี้ประกอบขึ้นจากเรื่องหลักๆ คือ ราคาแพง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และก็พยายามใช้ประเด็นนี้ เจาะลงไปดูข้อมูลอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น โดยไม่มีความรู้ว่า ข้อมูลที่นำมานั้น เพียงพอกับการนำมาสรุปหรือไม่ ข้อมูลที่อยู่ในหนังสือพลังงานไทย..พลังงานใคร? เป็นข้อมูลที่ไม่เพียงพอและข้อมูลที่ใช้ ก็ถูกนำมาบิดเบือน และใช้ผิดประเด็นในการวิเคราะห์ เมื่อผมลองเช็คดูข้อมูลในเวบที่คุณ ส.ว. นำมา ยังคงมีข้อมูลอีกหลายตัวที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์เพื่อนำมาสรุปเป็นข้อเท็จจริง แต่ท่าน…กลับไม่นำมาเปิดเผยด้วย!!! เพราะอะไร??? กลัว เปิดเผยแล้วจะไม่มีน้ำหนักในการชักจูงคนหรืออย่างไร ผมก็มิอาจทราบได้ ผมอยากจะเปรียบเทียบยกตัวอย่างการสรุปโดยที่ใช้ข้อมูลที่ไม่เพียงพอดังนี้ สมมติว่าคุณมีร้านข้าวมันไก่ ขายจานละ 60 บาท และลูกค้าเข้าน้อยมาก ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณคิดอย่างแรกเลยคือ ราคาขายแพงไป ดังนั้นคุณจึงพยายามลดราคาลง แต่ผลคือคุณลดเท่าไหร่ ลูกค้าก็ยังไม่เพิ่มขึ้น หนำซ้ำ ยังได้รายได้ลดลงเพราะลดราคาขายลง จริงๆ แล้วต้นเหตุของปัญหากลับเป็นการที่ร้านมีทำเลไม่ดี และบริการแย่ ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพราะคุณใช้ทัศนคติที่แคบเกินไปในการมองธุรกิจของคุณ เฉกเช่นเดียวกับเรื่องของธุรกิจพลังงาน ที่ ตอนนี้กำลังถูกมองว่า ขายของแพง และพยายามขึ้นราคาของทุกอย่าง โดยดูเหมือนว่าจะไม่เหตุผลอันสมควร และไม่เหมาะสมเลยในมุมมองของคุณ ส.ว. แต่ เรื่องทุกเรื่อง มีผล ก็ต้องมีเหตุครับ และต้องเป็นเหตุ ที่อาศัยข้อมูลอย่างเพียงพอและรอบด้านในการที่จะนำมาสรุป มิใช่การมองโลกด้วยข้อมูลแคบๆที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มเล็กเพียงแค่นี้

คุณ เคยสงสัยหรือไม่ ว่าทำไมท่านนายกคนปัจจุบัน ที่เคยบอกว่า จะเอาปตท คืน จะลดราคาน้ำมันอย่างนู้นอย่างนี้ จึงไม่ดำเนินการเสียที กลับขึ้นภาษีน้ำมันให้สูงกว่าปีที่แล้วอย่างมากซึ่งเป็นการเพิ่มภาระราคา น้ำมันให้กับประชาชน มีคำตอบสองอย่างให้คิดครับ คือ

1. นายกคอร์รัปชั่น รับเงินใต้โต๊ะ และได้รับผลประโยชน์เพื่อให้กลืนน้ำลายตัวเอง หรือ

2. นายก ได้ศึกษา และทำความเข้าใจธุรกิจพลังงาน แล้วนำความรู้ทาง เศรษฐศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของท่านมาคิดวิเคราะห์ ดูข้อมูลอย่างรอบด้าน (ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยได้ศึกษาและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมาก่อน) แล้วสรุปสถานการณ์พลังงานในปัจจุบันด้วยตัวของท่านเอง

ทุก ท่านคงมีคำตอบให้กับตัวเองแล้วว่าจะเป็นข้อไหน สำหรับนายกคนปัจจุบัน (อย่าลืมนะครับ ว่าท่านนายกจบเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะเข้าใจเรื่อง Economic ของธุรกิจพลังงานได้ดีและครบถ้วนกว่าคนจบสื่อสารอย่างแน่นอน)

ผม ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ขอขอบคุณท่าน ส.ว. ครับ ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับผู้บริโภค และช่วยจุดประกายความสนใจในเรื่องธุรกิจพลังงานให้กับผมว่าทำไมน้ำมันถึงแพง ทำให้ผมได้พยายามทำความเข้าใจในธุรกิจนี้อย่างลึกซึ้ง นั่นทำให้ผมได้จุดเทียนปัญญาด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่ท่าน ส.ว. พยายามจะชี้นำสังคม

เกริ่นมานาน ก่อนที่จะเข้าสู่ข้อเท็จจริงของธุรกิจพลังงาน ขอสรุปดังนี้ครับ

“การ มองธุรกิจ ถ้ามองเพียงจุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียว ไม่อาจจะนำมาใช้สรุปว่าอะไรเป็นอะไรได้ เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มมองผลกระทบให้รอบด้านจึงจะเป็นการวิเคราะห์ธุรกิจได้ อย่างแท้จริง”

ขอให้เปิดใจให้กว้าง เพื่อรับข้อมูลทั้งหมดที่ทาง ส.ว. ไม่ได้นำมาเปิดเผย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แล้วนำข้อมูลเหล่านี้ ไปวิเคราะห์ดูเองครับ ผมเชื่อ…ว่าทุกคนมีความคิด