Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

LPG ใครผิด?? ใครถูก??

เรื่องของ LPG นั้น เป็นประเด็นที่ผู้ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา บ้างก็บอกว่าปตท. ขึ้นโรงแยกก๊าซฯ ช้า ผลิต LPG ไม่ทันใช้ บ้างก็ว่าภาคอุตสาหกรรมและปิโตรเคมีเป็นต้นเหตุทำให้มีใช้ไม่เพียงพอ บ้างก็ว่าให้ไปเก็บเงินที่นำเข้า LPG มาจากพวกอุตสาหกรรมและปิโตรเคมี ส่วนคนใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ไม่ต้องจ่ายอะไร ฯลฯ ส่วนทางฝั่งผู้ผลิตและรัฐบาล ก็พยายามจะขึ้นราคา และลดปริมาณการใช้ LPG ในรถยนต์ เช่นนโยบายที่ให้ Taxi เปลี่ยนมาใช้ NGV

เหล่านี้เป็นประเด็นที่หลายคนขาดความเข้าใจ และใช้หลักการที่ว่า “เราถูกเสมอ คนอื่นแหละผิด” มาโดยตลอด ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์อะไร อยากขอให้ย้อนดูสักนิดนะครับ ว่าอะไรเป็นอะไร และสิ่งที่พูดกันนั้นมันมาจากความรู้สึก หรือความจริง ต้องแยกให้ออกนะครับ มิฉะนั้นแล้ว บอกได้คำเดียวครับว่าประเทศชาติจะพัง!!!!

คงเคยได้ยินกันนะครับว่า หนึ่งนิ้ว ชี้ด่าคนอื่น สามนิ้วเนี่ยแหละที่ชี้ด่าตัวเองอยู่สำหรับคนที่ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์แล้วออกมาโทษกลุ่มปิโตรเคมีว่าใช้เยอะ มาแย่งประชาชนเนี่ย ผมบอกได้เลยว่าหนึ่งนิ้วที่คุณใช้ชี้ด่าปิโตรเคมีเนี่ย จริงๆแล้วคุณกำลังด่าตัวเองอยู่!!!

อยากให้ทุกคนลองมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วค่อยๆ มองออกไปรอบๆ ตัวเรานะครับ ลองถามตัวเองว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีบ้าง..........ผมเชื่อครับว่า หลายคนคงคิดว่ามีแค่พลาสติกหนิ ที่เป็นปิโตรเคมี แต่จริงๆแล้วแทบทุกอย่างเลยครับ ที่อยู่รอบๆตัวคุณมาจากกระบวนการทางปิโตรเคมีทั้งสิ้น ลองมาไล่กันดูนะครับ เริ่มตั้งแต่ในตัว....แว่นตา หมวก เสื้อผ้า กางเกง ตุ้มหู สร้อยข้อมือ กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ซองใส่โทรศัพท์ ถุงเท้า รองเท้า เป็นต้น และเมื่อลองมองออกไปรอบๆตัว.....ตั้งแต่ สบู่ แปรงสีฟัน อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์ไฟฟ้า สีทาบ้าน ฝ้าเพดาน ผ้าม่าน โซฟา เตียงนอน ปลั๊กไฟ กระเป๋า คอมพิวเตอร์ ยางรถยนต์และส่วนประกอบในรถยนต์...ล้วนทำมาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแทบทั้งสิ้น นี่เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเล็กน้อยนะครับ ถ้าให้ไล่ให้หมดเนี่ย คงจะเขียนต่อไปไม่ไหว เห็นอะไรไหมครับ...ที่คุณด่าว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกันอยู่ จริงๆแล้ว คุณกำลังด่าตัวคุณเองเนี่ยแหละ ที่เบียดเบียนเอา LPG ไปใช้ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นเพียงอุตสาหกรรมที่แปรรูป ก๊าซ ให้เป็นของใช้ประจำวันที่ประชาชนทุกคนใช้อยู่!!! อันนี้เป็นสัจธรรมและเป็นความจริงที่ไม่สามารถโต้แย้งได้นะครับ สำรวจตัวเองให้ทั่วๆก่อน แล้วค่อยวิพากษ์วิจารณ์ก็ยังไม่สายครับ ถ้าทุกคนเห็นแก่ตัวกัน บอกว่าอยากใช้เชื้อเพลิงรถยนต์ถูกๆ จะใช้ LPG กันหมด ห้ามเอาไปทำปิโตรเคมีเด็ดขาด = ประเทศชาติล่มจม!!!!! นะครับ ลืมกันไปแล้วหรือครับว่า แก่นในการดำรงชีวิตคือปัจจัย 4 เสื้อผ้าที่คุณซื้อกันถูกๆ ผลิตกันได้ในประเทศเนี่ยก็มาจากปิโตรเคมี ที่อยู่อาศัยที่คุณอยู่ สิ่งของทุกอย่างยกเว้นตระกูลพวกไม้ เหล็ก ล้วนมาจากปิโตรเคมีทั้งสิ้น อาหาร ก็ต้องมีการทำบรรจุภัณฑ์ในลักษณะต่างๆ เพื่อให้คุณซื้อขาย เคลื่อนย้ายได้สะดวก ยารักษาโรค แน่นอนว่ามาจากปิโตรเคมี แต่สิ่งที่คนกำลังนำ LPG ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงกัน อยากถามครับว่าเป็นปัจจัยที่เท่าไหร่กัน????????? คนเขาใช้ปัจจัย 4 กันดีๆ อยู่ แล้วนี่ดันมาคิดอุตริมาเผาในรถกันจนต้องนำเข้า แล้วสุดท้าย ประชาชนส่วนใหญ่และประเทศชาติเดือดร้อน ต้องนำเงินกองทุนน้ำมันจากผู้ใช้น้ำมันไปทดแทนให้พวกคุณ ถามว่ามันยุติธรรมแล้วเหรอครับ???? คนใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ กำลังหาความยุติธรรมให้ตัวเอง โดยการโยนความผิดไปให้กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ด้วยเพียงความเห็นแก่ตัวที่อยากใช้ของถูก ที่รัฐควบคุมราคาอยู่...ใช้อะไรคิดกันครับเนี่ย

ประเด็นแรกผ่านไป คงจะไม่มีใครเถียงนะครับ เพราะมันเป็นความจริง เป็นสัจธรรมที่ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธได้....ทีนี้เราลองมาดูข้อมูลกันสักนิดว่า ปิโตรเคมีใช้กันเยอะแค่ไหน และปตท. ขึ้นโรงแยกก๊าซไม่ทันจริงหรือ?? เอาเป็นว่า ผมจะไล่อธิบายตั้งแต่รากของ LPG กันเลยนะครับว่ามายังไง แล้วกว่าจะได้ LPG มา ต้องทำอะไรกันบ้าง จนกระทั่ง LPG เข้าสู่ปิโตรเคมี ว่าเยอะอย่างที่ว่ากันหรือเปล่า

1. เมื่อขุดก๊าซธรรมชาติได้จากอ่าวไทย จะมีการต่อท่อนำเข้าสู่โรงแยกก๊าซฯ ซึ่งในก๊าซธรรมชาติ 100 หน่วย จะแยกออกมาได้โดยมีส่วนประกอบดังนี้

- มีเทน (C1) ประมาณ 80 หน่วย : นำไปป้อนโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้า / นำไปให้โรงงานอุตสาหกรรมเผาเป็นเชื้อเพลิง / นำไปทำเป็นก๊าซ NGV, CNG สำหรับรถยนต์

- อีเทน (C2), โพรเพน (C3), บิวเทน (C4), LPG (C3+C4), ก๊าซธรรมชาติเหลว ทั้งหมดนึ้รวมกันประมาณ 20 หน่วยเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าปริมาณ LPG ที่แยกได้จากโรงแยกก๊าซฯ นั้น มีปริมาณไม่เยอะเลย เมื่อเทียบกับ C1 ที่นำไปทำเป็น NGV ทีนี้เห็นกันหรือยังว่า เรามี NGV เยอะ แต่ขาดแคลน LPG ดังนั้น การที่รัฐส่งเสริมให้มาใช้ NGV กันนั้น มีจุดประสงค์ เพื่อที่ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องไปเสียดุล นำเข้ามาจากประเทศอื่น หัด”พอเพียง” ใช้ของที่เรามีอยู่กันเถอะครับ ถ้าไม่อยากใช้น้ำมัน...NGV เป็นทางเลือกครับ ไม่ใช่ LPG!!!

2. ทราบกันไหมครับว่า จุดประสงค์ในการสร้างโรงแยกก๊าซฯ นั้น ทำเพื่ออะไร??? แต่ก่อนนั้น มนุษย์ยังไม่รู้จักคุณค่าของก๊าซฯ เมื่อขุดขึ้นมาได้ก็นำมาเผาทิ้งเป็นเชื้อเพลิงกันหมด...แต่อยู่มาวันหนึ่ง อุตสาหกรรมปิโตรเคมีก็ได้เติบโตขึ้นเพื่อสนองตอบความต้องการหลักๆของมนุษย์ นั่นก็คือปัจจัย 4 ซึ่งต้องใช้ก๊าซฯ เป็นวัตถุดิบ (วิชาเคมีเป็นวิชาที่เล่นแร่แปรธาตุ แปลงก๊าซฯ ให้มาเป็นของแข็งทั้งหลายที่ใช้กันอยู่เนี่ยแหละครับ) และก๊าซที่เหมาะจะใช้เป็นวัตถุดิบก็คือ ส่วนที่เป็น อีเทน โพรเพน บิวเทน LPG ก๊าซธรรมชาติเหลว ดังนั้นจุดประสงค์แรกเริ่มเดิมทีของการสร้างโรงแยกกาซฯ นั้น สร้างเพื่อแยกก๊าซฯที่มีประโยชน์และมีมูลค่า ให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครับ และส่วนที่ไม่มีมูลค่ามากนัก ในการจะเอาไปทำเป็นปัจจัย 4 อย่าง มีเทน ก็จะถูกแยกไปให้ใช้เผาเป็นเชื้อเพลิงอย่างพวก NGV นอกจากนี้แล้ว LPG ยังถูกนำไปใช้ในภาคครัวเรือน เป็นก๊าซหุงต้ม ซึ่งอันนี้ก็โอเคครับ เนื่องจากว่า LPG เป็นก๊าซที่บรรจุง่าย ขนย้ายสะดวก จึงเหมาะที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนสำหรับประชาชน และที่สำคัญคือ เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ประชาชนต้องใช้ประกอบอาหาร การเอา LPG ไปใช้ในภาคครัวเรือนจึงไม่ถือว่าเสียหาย โดยภาครัฐยอมที่จะให้มีการควบคุมราคาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งตรงนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ทีนี้เราลองมาดูข้อมูลกันบ้างดีกว่า ว่าใครเป็นผู้ทำให้ประเทศเสียหายในการทำให้ประเทศต้องนำเข้า LPG??












จาก http://www.eppo.go.th/info/2petroleum_stat.htm

คำอธิบายประกอบตาราง
:

Cooking คือกลุ่มครัวเรือน ที่เอามาใช้หุงต้ม (เผาเพื่อเอาความร้อนมาใช้)

Industry คือกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ (เผาเพื่อเอาความร้อนมาใช้)

Automobile คือกลุ่มที่เอามาเป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ ในภาคขนส่ง (เผาเพื่อเอาความร้อนมาใช้ขับเคลื่อนรถ)

Feedstock คือกลุ่มที่นำมาเป็นวัตถุดิบในกลุ่มปิโตรเคมี (แปรรูปก๊าซ LPG ให้เป็นของใช้ประจำวันที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต)

Own used Feedstock คือการที่กลุ่มปิโตรเคมี นำ LPG ที่เป็น product ที่หลุดออกมาจากกระบวนการทางเคมี ย้อนกลับไปใช้ในระบบใหม่ เพื่อลดการสูญเสีย

ถ้าดูช่วงที่การใช้ LPG Peak จริงๆ ก็คงเป็นเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ที่ราคาน้ำมันแพงมาก จนคนหันไปใช้ LPG กันหมดในรถยนต์ จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับปี 2550 แล้ว ภาคขนส่งใช้มากขึ้นถึง 200 กิโลตัน ในขณะที่ปิโตรเคมีใช้มากขึ้นเพียง 100 กิโลตัน แต่หลายคนเข้าใจผิด เอา Own used เข้าไปรวมด้วยในส่วนที่ปิโตรเคมีใช้ แล้วบอกว่าปิโตรเคมีใช้เพิ่มขึ้นเยอะ มาแย่งภาคขนส่งใช้ จริงๆแล้วการนำ Own used เข้ามาคิดด้วยนั้น เป็นสิ่งที่ผิดครับ เพราะนั่นเป็นส่วนที่เป็นของเหลือของทางปิโตรเคมีที่เขาผลิตเองและนำกลับเข้าไปในระบบไปใช้เองเพื่อไม่ให้เกิด Loss ปล่อยออกมาทิ้ง ดังนั้น ส่วนที่ปิโตรเคมี ไปดึงมาจากโรงแยกก๊าซฯ จริงๆแล้วก็เพิ่มขึ้นเพียง 100 กิโลตัน ไม่ได้มีการไปแย่งภาคขนส่งแต่อย่างใด แต่การดูแค่นี้ก็ยังไม่พอครับ อยากให้ดูเลขที่เป็น % ด้วย ว่าการใช้โตปีละเท่าไหร่...

ก่อนจะไปดูเลข % โตในแต่ละปี อยากจะให้รู้กันสักนิดก่อนว่า ทำไมต้องดู % โดยเรื่องนี้มันไปเกี่ยวกับเรื่องที่พูดกันว่าปตท. สร้างโรงแยกก๊าซช้า และวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ด้วยนะครับ

ในการสร้างโรงแยกก๊าซฯ นั้น ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าสั่งปุ๊บ ได้ปั๊บ สร้างกันที 4-5ปี นู่นแหละครับ กว่าจะเสร็จ ดังนั้นเวลาจะสร้าง ก็ต้องมองไปข้างหน้าถูกมั้ยครับ ว่าจะต้องสร้างโรงแยก ที่ผลิตได้เท่าไหร่ เพื่อให้เพียงพอในอนาคต ทีนี้เวลาจะมองไปข้างหน้า ก็ต้องคาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้จากแต่ละกลุ่มผู้บริโภคจะโตขึ้นปีละกี่ % ซึ่งการคาดการณ์นี้ ก็คงต้องไปอิงกับในอดีต ว่าเคยโตปีละเท่าไหร่ แล้วจึงปรับด้วยปัจจัยต่างๆที่อาจเข้ามากระทบอีกทีหนึ่ง ดังนั้น ผมอยากพาทุกคนย้อนไปในอดีตเมื่อห้าปีที่แล้วครับ เมื่อตอนที่จะเริ่มสร้างโรงแยกก๊าซฯ ลองดูตัวเลขที่ผม Highlight สีเหลืองไว้ครับ จะเห็นว่าข้อมูลที่ Available ณ ขณะนั้นก็คือ Growth แต่ละปีจากในอดีต (ปี 99-03) ซึ่งการวางแผนที่จะสร้างโรงแยกฯ ก็ต้องอิงกับ Growth ตัวนี้เป็นหลัก แต่ลองมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริงครับว่าเกิดอะไรขึ้น....จะเห็นว่าปี 04-08 นั้น Growth ของการใช้ LPG ในปิโตรเคมีกลับตกลง จาก 15% เป็น 11% ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ในขณะที่ภาคขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง จากโตปีละ 23% เป็น 36% (ลองเปรียบเทียบง่ายๆนะครับว่าถ้าคุณเคยฝากเงินธนาคารไว้ แล้วธนาคารให้ดอกเบี้ยปีละ 23% อยู่ดีๆ กลายเป็น อยู่ดีๆ กลายเป็น 36% คุณได้มากขึ้นแค่ไหน) เยอะมากนะครับ เห็นตัวเลขแล้ว คิดว่าอะไรครับ ที่ทำให้เกิดปัญหา?? ผมไม่โทษกลุ่มคนที่ใช้ LPG ในรถ แต่ผมโทษราคาครับ ราคา LPG ที่ขายภาคขนส่งถูกควบคุมไว้ที่ราคาที่ต่ำกว่าน้ำมันมาก จึงทำให้คนแห่กันไปใช้ โดยจริงๆแล้ว การควบคุมราคาในลักษณะนี้ ควรจะคุมสำหรับภาคครัวเรือนก็พอครับ นโยบายการคุมราคา LPG ให้กับผู้ใช้รถ เป็นนโยบายที่ทำลายประเทศ และประชาชนในระยะยาว โดยมีผู้ได้ผลประโยชน์คือคนกลุ่มน้อยที่ใช้รถ LPG แล้วถ้าคนไทยยังไม่ตระหนักตรงจุดนี้ และยังพยายามที่จะใช้กันอยู่ใน Rate เท่านี้เนี่ย กองทุนน้ำมันก็กองทุนน้ำมันเถอะครับ เอาไม่อยู่แน่ๆ แล้วรัฐจะเอาเงินจากไหนมาชดเชยให้พวกคุณครับ เผลอๆ คุณกำลังจะกลายเป็นคนที่คอร์รัปชั่นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะคุณกำลังเอาเงินภาษีของประชาชนทุกคนมาช่วยจ่ายให้คุณใช้ LPG ราคาถูก เหมือนอย่างที่คุณด่านักการเมืองกันว่าโกงกินภาษีประชาชน นั่นแหละครับ จะเห็นว่า Growth ของการใช้ LPG จากกลุ่มปิโตรเคมีนั้นลดลงเรื่อยๆนะครับ อันนี้ตัวเลขก็โชว์ให้เห็นกันอยู่ แค่จะไปโทษคนอื่นก็ผิดแล้วล่ะครับ ตัวเลขมันฟ้องอยู่ นอกจากนี้แล้วก็มีอีกหลายคนนะครับ ที่พยายามจะโบ้ยผลักภาระราคานำเข้าไปให้ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่หารู้ไม่ครับว่า ปิโตรเคมีเขาจ่าย LPG ที่ราคาอิงราคาตลาดโลกอยู่แล้ว เหลือแต่ภาคขนส่ง กับภาคครัวเรือนล่ะครับ ที่จ่ายที่ราคาต่ำมาก ซึ่งแน่นอนครับ การSubsidize สำหรับครัวเรือนเป็นสิ่งที่สมควรทำ...ทีนี้ก็เหลืออยู่ภาคเดียวที่ยังลอยนวล ที่เป็นผู้ทำให้เกิดการนำเข้าที่ราคาแพง แต่ไม่ยอมจ่ายที่ราคานั้น

ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมานี้ ดูเหมือนว่าการขึ้นราคาสำหรับภาคขนส่งจะเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับที่จะขึ้นราคา เพราะยังไงๆ คนที่มันจะใช้ก็ลักลอบเอาก๊าซหุงต้มที่อยู่ในถังของภาคครัวเรือนมาใช้ในรถกันได้อยู่ดี ดังนั้นการขึ้นราคาคงไม่ช่วยอะไรมากนัก แต่สิ่งที่ควรทำคือ คนไทยทุกคนควรตระหนักครับ ว่า LPG ไม่ใช่สิ่งที่ควรนำไปทดแทนน้ำมัน แต่เป็น NGV ต่างหากล่ะครับ ที่เหมาะสม เพราะแหล่งพลังงานในประเทศของเรามันเอื้อกับการใช้ในลักษณะนี้ อย่าเอาไปเทียบกับประเทศอื่นเลยนะครับ มันคนละ Situation กัน ซึ่งนโยบายรัฐในปัจจุบัน ที่พยายามเปลี่ยนให้รถหันมาใช้ NGV กันมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมครับ และทุกคนควรให้ความร่วมมือด้วยครับ มิฉะนั้นแล้ว..คุณได้..แต่ประเทศพัง อยากเห็นแก่ตัวหรืออยากทำเพื่อส่วนรวมก็เลือกกันเอาเองนะครับ ผมก็ได้แต่หวังว่าคนไทยจะมีจิตสำนึกที่จะทำเพื่อประเทศมากกว่าเพื่อตัวเองบ้าง หลายคนว่านักการเมืองว่าไม่ทำเพื่อประเทศ หาแต่ประโยชน์ส่วนตัว แล้วคุณล่ะครับ!!! เริ่มทำอะไรหรือยัง?? ที่จะทำเพื่อประเทศไทยของเรา ใครใช้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับ แต่ใครที่จะเริ่มเปลี่ยนมาใช้...หยุดคิดสักนิด อย่าทำให้สถานการณ์พลังงานในบ้านเรามันย่ำแย่ไปกว่านี้เลยครับ


2 ความคิดเห็น:

  1. กลุ่มปิโตรเึคมี มีการใช้เพิ่มขึ้นต่างหาก
    แต่ยานยนต์ลดลง เพราะเติม NGV กัน

    ตอบลบ
  2. ตอนนี้ กระทรวงพลังงานก็แบกรับกับปัญหานี้อยู่ครับ แต่ประชาชนบางกลุ่มยังไม่เข้าใจ
    ว่ามันเกิดขึ้นจริงหรอ เพราะส่วนใหญ่จะมีกลุ่มต่อต้านมาโจมตีก่อน

    ตอบลบ